มงคลที่ ๒๔ "มีความสันโดษ"
น้ำแม้เพียงน้อย ก็สามารถทำให้แก้วน้ำเต็มได้ ตรงข้ามแม้มีน้ำมากมหาศาลก็ไม่สามารถทำให้มหาสมุทรเต็มบริบูรณ์ ทำนองเดียวกันทรัพย์สินแม้เพียงน้อย ก็สามารถยังใจของผู้มีความสันโดษ ให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขความพอใจ ตรงข้ามแม้มีทรัพย์สินมากมายมหาศาลใจของผู้ไม่มีสันโดษก็ยังเร่าร้อน กระวนกระวาย กระหายอยู่ร่ำไป
สันโดษ ภาษาบาลีว่า สันโตสะ สัน แปลว่า ตน โตสะ แปลว่า ยินดี สันโดษจึงแปลว่า ยินดี ชอบใจ พอใจ กับของของตน คือ ให้รู้จักพอ รู้จักประมาณ
ลักษณะของความสันโดษ
ความยินดี ความพอใจ ที่จัดว่าเป็นสันโดษ มีลักษณะ ๓ อย่าง คือ๑. สเกนสันโดษ คือ ยินดีตามมี หมายถึง ยินดีกับของที่ตนมีอยู่แล้ว พอใจกับของของตน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ลูกเมีย งาน ประเทศชาติ ถึงจะมีข้อบกพร่อง ก็ค่อยๆแก้กันไปให้ดีขึ้น แต่ไม่คิดไขว่คว้าแย่งชิงเอาของคนอื่นเขามา
๒. สันเตนสันโดษ คือ ยินดีตามได้ หมายถึง ยินดีกับของส่วนที่ตนได้มา คือ เมื่อแสวงหาประโยชน์อันใดแล้ว มันได้เท่าไหร่ก็พอใจเท่านั้น ยินดีเพียงแค่นั้น ไม่กระวนกระวาย เป็นทุกข์ เพราะได้ไม่สมใจอยาก
๓. สเมนสันโดษ คือ ยินดีตาควร หมายถึง ยินดีกับของที่สมควรกับตนเท่านั้น สิ่งใดที่มีอยู่หรือที่จะได้ต่อไป หากเห็นว่าไม่ควรกับเรา ก็ไม่ยินดี ไม่ยอมรับเอาไว้
การพิจารณาสิ่งต่างๆ ว่าควรกับเราหรือไม่นั้น ให้พิจารณาตามหลัก ๓ ประการ ดังนี้
๑. ยถาลาภะ คือ ควรแก่ฐานะ ให้พิจารณาว่าเรามีฐานะเป็นอะไร ก็แสวงหาหรือยอมรับแต่ของที่ควรกับฐานะของตน ไม่เป็นคนใฝ่สูงเกินศักดิ์
๒. ยถาพละ คือ ควรแก่สมรรถภาพ คนเรามีความสามารถไม่เท่ากัน ทั้งกำลังกาย ความคิด ใจ ความดี ก็ให้รู้กำลังความสามารถของตนเอง และแสวงหาหรือยอมรับเฉพาะของที่ควรแก่สมรรถภาพของตนเองเท่านั้น
๓. ยถาสรุปะ คือ ควรแก่ศีลธรรม ของใดก็ตามที่ควรแก่ฐานะของเรา ควรแก่ความสามารถของเรา ไม่ผิดศีลธรรม เช่น ของที่ลักปล้นฉ้อโกงเขามา ของที่เป็นสินจ้างในทางที่ผิด ก็ไม่ควรยินดีกับของสิ่งนั้น
สิ่งที่คนทั่วไปไม่รู้จักพอ
ไม่รู้จักประมาณในสิ่งต่อไปนี้
๑. อำนาจวาสนา เช่น เป็นผู้อำนวยการกองก็ไม่พอใจ อยากเป็นอธิบดี หรือเป็นผู้แทนราษฎรก็ไม่พอ อยากเป็นรัฐมนตรี ทั้งๆที่ความสามารถก็ไม่ถึง
๒. ทรัพย์สมบัติ เช่น มีบ้านหลังเล็กก็ไม่พอ อยากได้หลังใหญ่ มีเงินล้านก็ไม่พอ อยากจะได้สิบล้าน
๓. อาหาร เช่น มีอาหารธรรมดารับประทานก็ไม่พอ อยากจะไปรับประทานอาหารแพงๆ ตามภัตตาคารหรูๆ
๔. กามคุณ เช่น มีสามีหรือภรรยาแล้วก็ไม่พออยากจะมีใหม่อีก
สันโดษเป็นต้นทางแห่งความสุขได้อย่างไร
ความสุขในโลกนี้แบ่งออกได้ ๒ ประเภท คือ
๑. สามิสสุข เป็นความสุขที่ต้องอาศัยวัตถุภายนอกมาตอบสนองความต้องการทางตา หู จมูก ลิ้น กาย และความคิดอยากต่างๆ เป็นความสุขขั้นหยาบ เพราะมีทุกข์เจือปนมากตลอดเวลา มีอาการคือ
- ต้องแส่หาดิ้รนกระวนกระวาย เป็นอาการนำหน้า เนื่องจากของทั้งหลายหาได้ยาก มีจำกัด
- เมื่อได้มาก็ต้องระวัง รักษา ยึดติด คับแคบ อึดอัด หวงแหน ผูกพันเพราะกลัวสูญ
- ถ้าไม่ได้มา ถูกขัดขวาง ก็ขัดใจ คิดทำลาย คิดอาฆาต พยาบาท จองเวร
๒. นิรามิสสุข เป็นความสุขภายใน ที่ไม่ต้องอาศัยวัตถุภายนอกมาสนองความอยาก เป็นความสุขขณะที่ใจมีลักษณะ
สะอาด ไม่มีกิเลสปน
สงบ ไม่ดิ้นรนกระวนกระวาย
เสรี เป็นอิสระ โปร่งเบา ไม่คับแคบ
สว่างไสว ประกอบด้วยปัญญา เห็นสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง
สมบูรณ์ ไม่มีความรู้สึกขาดแคลน ไม่รู้สึกบกพร่อง ไม่ว้าเหว่ มีแต่ความ
แช่มชื่นเบิกบานอิ่มเอิบอยู่ภายใน
นิรามิสสุข จึงเป็นความสุขที่แท้จริง เป็นภาวะสุขที่ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆตามมา ซ้ำยังช่วยขจัดปัญหาต่างๆด้วย
หลักปฏิบัติเกี่ยวกับทรัพย์สิน
๑. การแสวงหา ต้องหามาโดยชอบธรรม ไม่ข่มเหงรังแกใคร ไม่ผิดกฏหมาย ผิดประเพณี ผิดศีลธรรม
๒. การใช้ ไม่เป็นคนตระหนี่ และก็ไม่ฟุ่มเฟือย ให้รู้จักใช้ทรัพย์เลี้ยงตนและคนเกี่ยวข้องให้เป็นสุข รู้จักทำทาน เผื่อแผ่ แบ่งปัน ใช้ทรัพย์ทำสิ่งที่ดีงาม เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
๓. ทัศนคติเกี่ยวกับทรัพย์สิน ไม่ถือว่าทรัพย์สินเงินทองเป็นพระเจ้า แต่เป็นเพียงอุปกรณ์อย่างหนึ่งในการดำเนินชีวิต
ประเภทของคนจน
คนจนในโลกนี้มีอยู่ ๒ ประเภทได้แก่
๑. จนเพราะไม่มี คือ คนที่ขัดสนทรัพย์ มีทรัพย์น้อย จัดว่าเป็นคน "จนชั่วคราว" ถ้าหากทำมาหากินถูกช่องทาง ย่อมมีโอกาสรวยได้
๒. จนเพราะไม่พอ คือ คนที่มีทรัพย์มากแต่ไม่รู้จักพอ จัดว่าเป็นคน "จนถาวร" เป็นเศรษฐีอนาถา ต้องจนจนตาย
สันโดษ คือ การรู้จักพอ จึงเป็นคุณธรรมที่มหัศจรรย์ สามารถทำให้คนเลิกเบียดเบียนกัน เลิกฟุ้งเฟ้อ เลิกสะเพร่า เลิกสงคราม ทำให้คนอิ่มใจได้ แม้มีทรัพย์ มียศ มีตำแหน่งน้อย และทำให้คนรวยเป็นเศรษฐีได้โดยสมบูรณ์ พระสัมมามสัมพุทธเจ้าจึงตรัสว่า
"ความสันโดษเป็นยอดทรัพย์"
วิธีฝึกให้มีสันโดษ
๑. ให้หมั่นพิจารณาถึงความแก่ ความเจ็บ ความตายอยู่ตลอดเวลา
๒. ให้รู้จักประมาณในการบริโภคอาหาร
๓. ให้หมั่นให้ทานอยู่เสมอๆ
๔. ให้หมั่นรักษาศีล
๕. ให้หมั่นทำสมาธิเป็นประจำ
อานิสงส์การมีสันโดษ
๑. ตัดกังวลต่างๆ ทำตนให้สบาย นำตนให้พ้นทุกข์
๒. ออกห่างอกุศล คลายผิดติดถูก ปลูกศีลธรรม
๓. ไม่ฝ่าฝืนทำชั่ว สร้างแต่เหตุดี ปลูกแต่ความเจริญ
๔. นำศาสนาให้รุ่งเรือง
ขอขอบคุณ: คุณ บุญนำพา
ที่มา: http://www.oknation.net/blog/ngern42/2010/06/12/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น